รองโฆษกนายก กล่าวก่อนทราบ ผลตัดสินนายก 8 ปี สล็อตแตกง่ายว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ประยุทธ์ น้อมรับคำตัดสิน วอนขอคนไทยสามัคคีกันไว้ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนการตัดสินนายก 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในช่วงเวลา 15.00 น. ว่าจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่นั้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ใช้อำนาจฝ่ายบริหารที่เคารพอำนาจอธิปไตยซึ่งประกอบด้วยฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ น้อมรับและเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะมีผลออกมาอย่างไร เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำมาโดยตลอดว่าขอให้ทุกคนเคารพผลตัดสินศาลรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นกลไกสำคัญของประเทศชาติ ที่จะทำให้สังคมเกิดความสงบสุข ขอให้คนไทยทุกคนสามัคคีกันไว้ คำนึงถึงความสงบร่มเย็น อันจะเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้” น.ส.ทิพานันกล่าว
ศรีสุวรรณ ออกโรงเตือน ม็อบ 30 กันยา ก่อนวินิจฉัยปมนายก 8 ปี ขู่ถ้าไม่พอใจผลตัดสินแล้วลงถนน เจอแจ้งจับสถานเดียว นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กก่อนการตัดสิน ประยุทธ์ 8 ปี ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. นี้
นายศรีสุวรณได้ประกาศกร้าวว่า หากประชาชนออกมาประท้วงลงถนนหาก ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งต่อจะแจ้งจับ โดยพี่ศรีระบุว่า “โดยศรีสุวรรณโพสต์ว่า “ถ้าศาล รธน. ชี้บิ๊กตู่อยู่ต่อ ใครลงถนนผมแจ้งจับสถานเดี๋ยว #คุกมีไว้ขังพวกไม่เคารพกฎหมาย”
ในวันนี้มีรายงานว่า ม็อบ 30 กันยา มีการนัดชุมนุม 3 จุดได้แก่ ส่วนแรกจะไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอฟังคำตัดสินของศาล โดยคาดว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 50-100 คน และยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนประกาศนัดชุมนุมกันที่ บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แต่ตำรวจยังไม่ทราบจำนวนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะไปร่วมชุมนุม นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคณะหลอมรวมประชาชน นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่จะชุมนุมกันบริเวณแยกราชประสงค์
ชวนอ่าน สรุปผลตัดสิน นายก 8 ปี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประยุทธ์ อยู่ต่อ
สรุปผลตัดสิน ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยผลตัดสินนายก 8 ปี คำพิพากษาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อ วันดำรงตำแหน่งยึดตาม รัฐธรรมนูญปี 60 ผลวินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องยังไม่สิ้นสุดลง ผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ประยุทธ์ – วันที่ 30 กันยายน 2565 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ การอ่านคำวินิจฉัย ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุด ผลวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย ผลวินิจฉัยจากการลงมติของตุลาการศาลรัฐธรรนูญ เมื่อ เวลา 15.00 น. ปัญหาข้อกฎหมายประเด็น ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ได้ปรากฏประเด็นในการพิจารณาหรืออภิปรายเกี่ยวกับ การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า
สามารถนับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ บังคับด้วย การกำหนดเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ จึงมีความหมายเฉพาะการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามพุทธศักราช 2560
ดังนั้นเมื่อ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชพุทธศักราช 2560ประกาศใช้บังคับในวันที่ 6 เมษายน 2560 ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264
การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องดังกล่าว จึงเป็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ ภายใต้บังคับตามมาตรา 158 วรรคสี่
ทั้งนี้ การให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อน วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จะต้องถือเอาวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ เป็นวันเริ่มต้นเข้ารับตำแหน่ง
ผู้ถูกร้อง จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามความมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 นับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ผู้ถูกร้องจึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ครบกำหนดเวลาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องจึงไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 158 วรรคสี่